![]() ![]() |
![]() |
th ![]() ![]() |
โปรโมชั่น
![]()
แมกเนติก คอนแทคเตอร์ & โอเวอร์โหลด
คอนเดนเซอร์ คาปาซิเตอร์ รีเลย์
ไทม์เมอร์ & ออด กระดิ่ง
อุปกรณ์ตรวจวัด & มิเตอร์
ซี.ที. คล้องสายไฟ & ฟิวส์ ฐานฟิวส์
ปลั๊ก & ฝาครอบพลาสติก
สวิทช์ ไมโครสวิทช์ & พ็อกซิมิตี้
หางปลา ปลอกหุ้มหางปลา & สลิป
โคมไฟ & หลอดไฟ & ขั้วหลอดไฟ
ตู้ไฟ บ็อกซ์ & รางไวร์เวย์
ท่อ ข้อต่อ & อุปกรณ์ท่อ
อุปกรณ์แรงสูง
|
อุบัติเหตุที่เกิดจากไฟฟ้า![]() ![]() ![]() สื่อนำไฟฟ้า คือ สิ่งที่เป็นทางเดินของไฟฟ้า เช่น เส้นลวด สายไฟ วัสดุที่เป็นโลหะ รวมไปถึงผิวหนังของคนเรา เพราะในภาวะที่เปียกชื้นถือเป็นสื่อนำไฟฟ้าได้ดีทีเดียว รู้จักสื่อกันแล้วก็ควรรู้จักฉนวนไฟฟ้าด้วย ฉนวนไฟฟ้า คือ วัสดุ วัตถุ สิ่งของที่ไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านได้ มักจะเป็นวัสดุแห้ง เช่น แผ่นยาง แผ่นไม้ พลาสติก ผ้า ฯลฯ อุบัติเหตุใดเกิดอันตรายได้ อุบัติเหตุที่เกิดจากไฟฟ้า ที่พบบ่อยเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มีไฟรั่วและบริเวณนั้นมีน้ำท่วมชื้น ก็จะมีการลัดวงจรไฟฟ้าเกิดขึ้น นอกจากนี้อาจเกิดจาก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงที่สุด การถูกฟ้าผ่า กระแสไฟฟ้าจะทำอันตรายต่อการทำงานของหัวใจและสมอง ทำให้คลื่นหัวใจเต้นผิดปกติเกิดหัวใจวายเฉียบพลันได้ ซึ่งเราพบไม่บ่อยนักในกรณีนี้เมื่อเทียบกับผู้ถูกไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต แม้อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านจะมีกระแสไฟฟ้า 220 โวลต์ ซึ่งถือเป็นไฟฟ้าแรงต่ำ แต่ถ้าผู้นั้นถูกไฟฟ้าดูดหรือช็อตเป็นเวลานาน อาจทำให้เสียชีวิตได้ หรือขาดเลือดรุนแรงจนถึงกับสูญเสียอวัยวะหรือกลายเป็นผู้พิการในที่สุด การปฐมพยาบาลเบื้องต้น 1. ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากบริเวณที่ถูกไฟดูด ไฟช๊อตให้เร็วที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องป้องกันอันตรายไฟฟ้าดูดจากผู้ที่จะเข้าไปช่วยเหลือด้วย ซึ่งบ่อยครั้งพบว่าผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือกลับไม่ได้ระวังตรงจุดนี้จนถูกกระแสไฟฟ้าดูดเสียชีวิตไปด้วย เมื่อพบแหล่งไฟฟ้ารั่ว ควรพยายามหาทางตัดวงจรไฟฟ้าเสียก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มักลืมตัดไฟฟ้าที่ลัดวงจร หรือผู้ที่ถูกไฟฟ้าแรงสูงดูด และมีสายไฟพาดผ่านตัว ต้องหาวัสดุที่เป็นฉนวนไม่นำกระแสไฟฟ้า เช่น ไม้เขี่ย หรือผ้า เพื่อนำสายไฟนั้นให้พ้นจากตัวผู้ป่วยก่อนที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ไม่ควรใช้มือเปล่า หรือส่วนของร่างกายที่ไม่มีฉนวนหุ้มถูกต้องกับตัวผู้ป่วยหรือสายไฟ นอกจากนี้ต้องพยายามตรวจดูให้ละเอียดว่าบาดแผลซึ่งเกิดร่วมกับผู้ป่วยที่ถูกไฟฟ้าดูด เช่น อาจพลัดตกจากที่สูง มีบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือกระดูกส่วนต่าง ๆ หักหรือไม่ อย่าง กระดูกคอ กระดูกแขนขา หรือกระดูกสันหลัง เพราะหากไม่ระมัดระวังในจุดนี้และทำไม่ถูกต้องในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากที่เกิดเหตุ อาจทำให้เกิดความพิการอัมพาตตามมาได้ 2. ตรวจดูว่าหัวใจยังเต้นอยู่หรือไม่ เพราะกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่ไหลผ่านหัวใจ อาจทำให้คลื่นหัวใจหยุดเต้นได้ โดยใช้นิ้วมือคลำดูจากการเต้นของชีพจรบริเวณคอ ถ้าหัวใจหยุดเต้น ต้องทำการนวดหัวใจไปพร้อม ๆ กับการผายปอด 3. หลังจากช่วยเหลือผู้ป่วยออกมาได้แล้วให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ข้อห้ามที่ไม่ควรทำเมื่อช่วยเหลือ 1. ห้ามเข้าไปช่วยผู้ถูกไฟฟ้าช๊อต จนกว่าจะแน่ใจได้ว่าผู้บาดเจ็บมิได้สัมผัสกับสายไฟฟ้าหรือตัวนำไฟฟ้าใด ๆ ถ้าจำเป็น ต้องหาวัสดุที่เป็นฉนวนไม่นำกระแสไฟฟ้า เช่น ไม้เขี่ย หรือผ้ามาเขี่ยสายไฟออกจากผู้บาดเจ็บก่อน 2. ถ้าผิวหนังผู้ที่จะช่วยนั้นเปียกชื้น ห้ามเข้าไปช่วยเพราะอาจเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าและถูกไฟฟ้าดูดได้ 3. ถ้าไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยหรือไม่ในการเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากไม่มีความรู้ในการตัดกระแสวงจรไฟฟ้าหรือวิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้อง ให้รีบตามคนมาช่วย ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด 1. หมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์และสายไฟ และควรซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด 2. บริเวณที่วางสายไฟ ไม่ควรให้สิ่งของที่หนักไปทับ และวางให้พ้นทางเดิน 3. เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ควรจะเปียกน้ำ 4. ห้ามซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเองโดยที่ไม่มีความรู้ 5. ไม่ควรใช้ไฟฟ้าหลายอย่างกับปลั๊กไฟตัวเดียว 6. ต่อสายดินเพื่อจะให้ไฟลงดิน 7. และควรติดตั้งเครื่องตัดไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยและเป็นการป้องกันที่ดี อันตรายจากไฟฟ้า ป้องกันได้ และเมื่อเกิดเหตุร้ายจากไฟฟ้ากับคุณหรือคนใกล้เคียง พยายามตั้งสติและปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นนะคะ |